ตรวจสุขภาพ คนส่วนใหญ่มักมองว่าเด็กอ้วนเป็นเด็กน่ารัก น่าเอ็นดู ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ความน่ารักของเด็กอ้วนมักซ่อนอันตรายเอาไว้ เนื่องจากโรคอ้วนในวัยเด็กอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ Kids Own อ้างอิงจากสถิติทั่วโลกตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปัจจุบัน จำนวนเด็กอ้วนเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าในวันนี้ เราจึงอยากชวนคุณมาหาคำตอบกัน
เด็กอ้วนมีความเสี่ยงต่อภาวะหรือโรคอะไรบ้าง และควรระวังเรื่องโรคอ้วนในเด็ก แล้วเปรียบเทียบค่า BMI ที่ได้กับแผนที่เปอร์เซ็นไทล์ โดยแยกตามเพศและอายุ และถ้ามีค่ามากกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 85 จะถือว่าน้ำหนักเกิน เสี่ยงโรคอ้วน โรคอ้วนในเด็กส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมาย เสี่ยงเป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง
โรคนี้พบได้เฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น มันสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วัยเด็ก โดยเฉพาะเด็กอ้วนมีโอกาสเกิดโรคเหล่านี้ได้มากกว่าเด็กน้ำหนักปกติ หรือในรายที่ไม่แสดงอาการในวัยเด็กเพราะปัญหาไม่มากนักและมักจะแสดงผลเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่นอกจากนี้ความอ้วนยังทำให้นอนกรนได้อีกด้วย ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้นของ OSA ซึ่งอาจร้ายแรงหรือถึงแก่ชีวิตได้ในบางกรณี ถูกรังแกที่โรงเรียน คนพาลไม่ออกกำลังกายกับเพื่อนเพราะไม่ได้ออกกำลังกายหรือป่วยบ่อย
สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กขาดความมั่นใจในตัวเอง เสียบุคลิกภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าได้ ควรดูแลอาหารการกินของลูกให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ โดยให้มีการทานผักกับผลไม้ไม่หวานมากขึ้น เน้นอาหารที่มีกากใยสูงซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย จัดอาหารที่ไม่มันมาก ไม่หวานจัด ไม่เค็มจัด หรือรสจัดเกินไป
โดยเฉพาะไม่ควรทานขนมกรุบกรอบเป็นประจำ หรือพาไปทานอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ให้พลังงานสูงเป็นประจำ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายในวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้เด็กๆ ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย จึงควรจัดกิจกรรมในครอบครัวเพื่อให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกัน เน้นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับช่วงอายุของบุตรหลานซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคอ้วน การตรวจสุขภาพเด็กเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้พบปัญหาและได้รับคำปรึกษาจากคุณหมอตั้งแต่เนิ่นๆ
ทั้งยังได้รับทราบเกี่ยวกับสุขภาพและพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัยว่ามีสิ่งใดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ จะได้นำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดซึ่งมีผลต่อน้ำหนักตัวและการเจริญเติบโตของลูกน้อยด้วย โดยทั่วไปแล้วการ ตรวจสุขภาพ เด็กนั้น แพทย์จะทำการตรวจสุขภาพพื้นฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิต ชีพจร ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในเลือด การทำงานของต่อมไทรอยด์ และอื่นๆ เพื่อคัดกรองโรคต่างๆ ในเด็ก
นอกจากนี้ยังมีการคำนวณค่า BMI จากน้ำหนักและส่วนสูงว่าสัมพันธ์กันหรือไม่ หากเด็กมีแนวโน้มเสี่ยงโรคอ้วน หรือโรคต่างๆ ที่มากับความอ้วน จะได้รีบป้องกันหรือดูแลรักษาอย่างทันท่วงที จะเห็นได้ว่า ภาวะอ้วนในเด็ก จะส่งผลเสียต่อทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคมของเด็ก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการพาลูกน้อยไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกแข็งแรงมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย และห่างไกลจากโรค
การล้างจมูกเป็นวิธีการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ชำระล้างน้ำมูกและสิ่งเจือปนหรือสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ในโพรงจมูกให้หายไป นอกจากนี้ยังสามารถลดปัญหาน้ำมูกไหลและคัดจมูก และยังช่วยให้โพรงจมูกชุ่มชื้นอีกด้วย การหายใจจะง่ายขึ้น การใช้โดยการล้างจมูกไม่จำกัดเฉพาะเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้ แต่เด็กที่แข็งแรงสามารถล้างจมูกได้ อย่างไรก็ตามเด็กต้องสามารถกลั้นหายใจและสั่งน้ำมูกได้เองเพื่อไม่ให้สำลัก ช่วยล้างน้ำมูกที่ค้างอยู่ในโพรงจมูก
จมูกสะอาด บรรเทาอาการหวัดเรื้อรัง ป้องกันการแพร่กระจายของแบคทีเรียในโพรงจมูก ป้องกันไม่ให้ไซนัสอักเสบลุกลามไปที่ปอด ลดปริมาณแบคทีเรีย ของเสีย และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เติมน้ำในเยื่อบุโพรงจมูกเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูกหรือสำลัก หายใจได้โล่งขึ้น บรรเทาอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นในโพรงจมูก ปรับปรุงประสิทธิภาพของยาพ่นจมูก เนื่องจากโพรงจมูกจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อโพรงจมูกโล่ง จึงควรล้างจมูกก่อนการรักษาด้วยยาพ่นจมูก หรือหากลูกมีโรคเกี่ยวกับโพรงจมูกก็ควรล้างจมูกเป็นประจำ
โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคต่อไปนี้ ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หอบหืด คัดจมูก มีน้ำมูกหรือเสมหะมากเกินไปจนหายใจลำบาก อย่างไรก็ตาม หากสังเกตว่าลูกมีน้ำมูกข้นมาก เด็กที่สัมผัสควันหรือสัมผัสกับสภาพอากาศที่มีมลพิษสูงควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ อุปกรณ์สำหรับล้างจมูกด้วยน้ำเกลือนอร์มอล 0.9 เปอร์เซ็นต์
หาซื้อได้ตามโรงพยาบาลหรือร้านขายยา ไซริงค์พลาสติกถ้วยน้ำเกลือ เด็กเล็กควรใช้ขนาด 5-10 ซีซี เด็กโตควรใช้ขนาด 10-20 ซีซี ภาชนะสำหรับล้างจมูกหรือหากไม่ใช้ภาชนะก็สามารถล้างจมูกได้ที่อ่างล้างมือ ล้างมือและอุปกรณ์ให้สะอาด เทน้ำเกลือลงในภาชนะที่เตรียมไว้ ฉีดน้ำเกลือประมาณ 5-10 มล. ลงในกระบอกฉีดพลาสติก
จากนั้นพิงภาชนะที่รองรับ ให้เข็มฉีดยาอยู่ใกล้รูจมูกข้างใดข้างหนึ่งมากที่สุด จากนั้นกลั้นหายใจ ลดศีรษะลง แล้วอ้าปาก หรือหากต้องการทำให้ทารกร้องไห้ คุณสามารถส่งเสียงยาวๆ กลั้นหายใจ แล้วฉีดน้ำเกลือเข้าทางรูจมูกเบาๆ แทน ให้น้ำเกลือไหลเข้าโพรงจมูกด้านที่สอดเข็มฉีดยาและออกทางรูจมูกอีกข้างหนึ่ง
หากสไลม์ยังคงอยู่ ให้ค่อยๆ เป่าออก หรืออาจมีน้ำเกลือออกมาจากปากแทนแล้วบ้วนทิ้ง จากนั้นทำซ้ำที่รูจมูกอีกข้างหนึ่ง อาจทำซ้ำได้จนกว่าจะหายใจสะดวกและเสมหะหมดไป ข้อดีของการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือคือช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่ตกค้างในโพรงจมูกได้อย่างหมดจด ลดแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เราจึงล้างจมูกได้บ่อยขึ้น เมื่อหายใจถี่ หรือคัดจมูก หรือสามารถล้างได้ 2-3 ครั้งต่อวัน โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด
บทความที่น่าสนใจ : การสืบพันธุ์ อธิบายและศึกษาว่าสิ่งมีชีวิตมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือสืบพันธุ์